ก่อนตัดสินใจลาออกก็ลังเล เหมือนกัน กลัวหลายสิ่งหลายอย่าง กลัวมีปัญหาเรื่องการเงิน กลัวเรื่องความสามารถในการทำงานจะลดน้อยทอยลง เหมือนความรู้ที่ไม่ได้รับการพัฒนา ลำบากใจจริงๆ แต่ยังไงซะ ชีวิต มันก็ต้องลองเสียงกันบ้าง
ผมเคยลองอ่านหนังสือ หรือ ได้ยินใครพูดมาว่า "ชีวิต คือความท้าทาย " ผมจึงคิดว่า ควรออกมาใช้ชีวิตที่อยากเป็น อยากมี
การตัดสินใจลาออกจากงานครั้งนี้ ไม่ได้ปรึกษาพ่อแม่ ก่อน เลยอยู่ดี ก็ตัดสินใจกลับบ้านแล้วบอกกับพ่อแม่ ว่าเดือนนี้ ผมจะทำงานบริษัทเป็นเดือน สุดท้าย ผมบอกว่าผมอยากเริ่มต้น สิ่งใหม่ๆ
เพื่อนที่ทำงานหลายคนถามผมว่าจะออกไปทำ อะไรผมก็ตอบแบบขำๆไป เป็นโชคดีของผมจริง ที่ชีวิตการทำงานบริษัท ได้เจอแต่เพื่อนๆ พี่ๆ ร่วมงาน ที่มีน้ำใจ ตลอดมา แต่ว่า ยังไงชีวิตคนเราก็ต้องเดินไปตามใจต้องการ
การเดินทางกลับบ้าน
หลังจากออกจาก งานแล้วการเดินทางกลับบ้านแบบ faill faill แต่ผมกลับไม่รู้สึกอย่างนั้นเลยแปลกใจเหมือนกัน ตอนเด็กผมเป็นคนที่ไม่เคยขาดเรียนแม้เวลาป่วยก็ต้องไป ซึ่งต่างจากเด็กแถวบ้านผมที่ไม่ชอบไปโรงเรียนกัน ผมก็แปลกใจน่ะว่าตอนเด็กทำไมผมชอบไปโรงเรียน พอโตมาผมก็ไม่ค่อยชอบเข้าเรียนเท่าไหร่ ผมไม่ชอบเข้าเรียนตอนมหาวิทยาลัย
ผมมีความคิดที่ว่า เข้าไปอาจารย์ก็อ่านหนังสือให้ฟัง ซึ่งผมจำมาจากตอนเด็ก "ผมหละเสียดายจริงๆ" ที่พลาดช่วงเวลานั้นไป
ตอนเด็กผมเคยคุยกับพ่อ ว่าเรียนไปผมไม่รู้จะไปทำงานอะไร เพราะหลักสูตรที่เรียน ผมได้บอกเลยว่าผมจะเป็น จะทำอะไรได้ แต่พ่อของผมก็บอกเพียงว่า เรียนไปเถอะ สักพักเราจะค้นพบตัวเราเองว่าเราอยากเป็นอยากทำอะไร ต้องให้เวลาตัวเองได้เดินทางไปพบสิ่งต่างๆ
ผ่านมาแล้ว 20 ปีจากวันที่ผมถาม คำถามกับพ่อออกไป วันนี้ผมพร้อมหล่ะ กับสิ่งที่อยากทำอยากเป็น
พ่อผมก็คงจำได้ ผมเห็นพ่อยิ้มวันที่ผมไปบอกกับพ่อ ตอนผมอายุ 30