boxs-Eo

ทำความรู้จักกับครีมละลายสิวอุดตัน สูตรการรักษาสิวง่ายๆไม่ต้องถึงมือหมอ ครีมละลายสิวอุดตัน เรติน เอ(retinoic acid)

ทำความรู้จักกับครีมละลายสิวอุดตัน ครีมละลายสิวอุดตัน เรติน เอ(retinoic acid)
เรติน เอ หรือ retinoic acid จัดเป็นครีมทาเพื่อรักษาสิวยอดนิยมอีกตัวหนึ่ง ใช้ละลายสิวอุดตันได้เป็นอย่างดี โดยตัวเรตินเอนี้มี tretinoin ซึ่งมันจะช่วยปรับการทำงานของรูขุมขน ของเราให้เป็นปกติเหมือนเดิม จากที่มันเพี้ยนๆไป ซึ่งเมื่อรูขุมขนเราทำงานได้ดีก็จะช่วยลดการเกิดสิวอุดตันได้ดีเช่นกัน วิธีการใช้ครีมเรติน เอ ก็ให้ทาหลังจากที่ล้างหน้าเสร็จแล้ว ก็คือทาครีมก่อนเข้านอนได้เลยไม่ต้องล้างออก แต่มือใหม่หัดทาอาจจะลองทาทิ้งไว้สัก 20 นาทีแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่าก่อนก็ได้เพื่อเป็นการปรับสภาพผิว หากใช้แล้วรู้สึกว่าหน้าไม่มีความผิดปกติใดๆก็ทาทิ้งไว้ทั้งคืนได้เลย ผลต่อการรักษาสิวอุดตันอาจเห็นผลใน 2-3 สัปดาห์ หรืออาจจะนานถึง 1 เดือนก็แล้วแต่สภาพผิวของแต่ละคน แต่การใช้เรติน เอเพื่อละลายสิวอุดตันก็ต้องระวังแสงแดดให้มากหน่อย เพราะครีมเรติน เอนี้จะทำให้หน้าของเราไวต่อแสงแดดมากๆ จึงควรใช้ครีมกันแดดควบคู่กันไปด้วยเมื่อต้องออกนอกบ้าน  ยาทาสิวครีม BenZac 2.5 %
คุณสมบัติ  เรติน เอ ยา นี้อยู่ในรูปแบบครีมสำหรับทาผิวหนัง เพื่อรักษาสิวขั้นเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยเร่งการหลุดลอกของผิวหนังบริเวณที่เป็นสิว และลดการอุดตันของรูขุมขน ยานี้เป็นยาควบคุมการเกิดสิวเท่านั้น ไม่ใช่ยารักษาสิวให้หายขาด ยานี้ใช้เพื่อรักษาริ้วรอยที่เกิดจากสิวบนใบหน้า

















คุณสมบัติ  เรติน เอ
ยา นี้อยู่ในรูปแบบครีมสำหรับทาผิวหนัง เพื่อรักษาสิวขั้นเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยเร่งการหลุดลอกของผิวหนังบริเวณที่เป็นสิว และลดการอุดตันของรูขุมขน ยานี้เป็นยาควบคุมการเกิดสิวเท่านั้น ไม่ใช่ยารักษาสิวให้หายขาด
ยานี้ใช้เพื่อรักษาริ้วรอยที่เกิดจากสิวบนใบหน้า

โดยทั่วไปยานี้ใช้ทาผิวหนังวันละครั้งก่อนนอน หรือทา 1 ครั้งทุก 2-3 วัน
เป็นยาใช้ภายนอกห้ามรับประทาน
ใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด การใช้ยาในขนาดที่มากกว่าที่ระบุอาจเป็นสาเหตุนำไปสู่การระคายเคืองผิวหนัง และไม่ช่วยให้ผลการรักษาดีขึ้น หากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
ข้อแนะนำวิธีการใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ทุกยี่ห้อ ก่อนอื่นล้างหน้าด้วยสบู่และซับหน้าให้แห้ง จากนั้นทายาโดยหลีกเลี่ยงการทายาบริเวณดวงตา หู รูจมูก หรือปาก นอกจากนี้ผู้ทายานี้ควรหาผลิตภัณฑ์โลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวที่มีส่วน ประกอบของสารกันแดด (ค่าเอสพีเอฟอย่างน้อย 15) มาทาทุกเช้าหลังล้างหน้าและทายาเรียบร้อยแล้ว
สำหรับผลิตภัณฑ์ เช่น Altinac, Ativa, Retin-A หลังล้างหน้าควรรอให้หน้าแห้งอย่างน้อย 20-30 นาทีก่อนทายา เพื่อลดผลข้างเคียง จากนั้นบีบยาออกมาให้ความยาวประมาณ1/2 นิ้ว ลงบนนิ้วมือโดยกะประมาณให้สามารถทาได้ครอบคลุมทั่วใบหน้า แต้มยาบริเวณหน้าผาก คาง และแก้มทั้งสองข้าง จากนั้นค่อยๆ เกลี่ยยาให้ทั่วบริเวณที่มีสิว เมื่อทายาควรสังเกตว่ายาจะหายกลืนกับผิวไปทันที หากยังมีส่วนที่มองเห็นอยู่ แสดงว่าทายามากเกินไป
อาการอาจแย่ลงในช่วง 7-10 วันแรกที่ใช้ยา โดยอาการที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ผิวแดง สิวเห่อเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ให้ใช้ยานี้ต่อไป สิวจะค่อยๆ หายไปภายใน 2-3 สัปดาห์ (หรือในบางรายอาจมากกว่า 6 สัปดาห์)
เครื่องสำอางที่ใช้ไม่ควรมีส่วนผสมของตัวยาใดๆ อยู่ หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ปริมาณมาก เมนทอล พริก หรือมะนาว (เช่น โลชั่นโกนขน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดขจัดความมันบนใบหน้า
หลีกเลี่ยงการใช้ยาทาผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง benzoyl peroxide, salicylic acid และแชมพูขจัดรังแคที่มีส่วนผสมของ sulfur หรือ resorcinol โดยไม่มีคำสั่งแพทย์
หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดเป็นระยะเวลานาน โดยสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด สวมแว่นกันแดด และทายากันแดด เนื่องจากยานี้อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแดดเพิ่มมากขึ้น